วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

ประเภทของเพลง

ประเภทของเพลง
     เชื่อว่าหลายๆคนที่มาอ่านในบลอกนี้ย่อมต้องฟังเพลงเป็นแน่
ถ้ามีคนมาบอกว่า ชีวิตเค้าไม่เคยฟังเพลงมาก่อน ดิฉันเกือบ(?)เชื่อแน่นอน
คงจะพูดได้ว่า เพลง เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
บางคนก็ชอบเพลงเบาๆ....
บางคนก็ชอบเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง.....
บางคนก็ชอบเพลงหนักๆรุนแรง....
แต่ละสไตล์ของเพลงจึงถูกแตกแขนงออกไปเพื่อรองรับสไตล์ของผู้ฟังแต่ละคน......
วันนี้ดิฉันจึงมาอธิบายแต่ละรูปแบบของเพลงแต่ละแนว โดยเจาะลึกไปถึงแก่นของ Sub Culture เลยทีเดียว (จะไหวมั้ยฟระตู - -")
อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า เพลง นั้นถ้าแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆแล้ว ก็จะมีหลักๆคือ
     1. POP - แนวเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง สดใส มันจะรู้สึก ป๊อบๆ อยู่ข้างใน ซึ่งจะไม่ค่อยจำกัดเครื่องดนตรีที่ใช้ซักเท่าไหร่นัก
     2.JAZZ - แนวนี้ก็จะร่าเริงเหมือนกัน แต่ไม่ได้ร่าเริงเหมือน POP , Jazz จะค่อนไปทางร่าเริงแบบหรูหรา เครื่องดนตรีที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องลม(แซ๊กโซโฟน เป็นต้น) อาจจะมีเครื่องดนตรีแบบอื่น มาเสริมก็ได้
ข้อเปรียบเทียบระหว่างร่าเริงแบบ POP กับ JAZZ คือ Pop นั้นจะร่าเริงในอิมเมจกระโดดโลดเต้น รอยยิ้มสดใส แต่ Jazz จะมีอิมเมจเป็นร่าเริงแบบ สุขุมนุ่มลึก รอยยิ้มที่ยิ้มแบบเล็กๆมีความสุข
     3.TECHNO - แนวนี้มักจะค่อนข้างได้ยินตามเทคทั้งหลาย Techno จะเป้นแนวเพลงที่ฟังแล้ว จะรู้สึกอยากลุกขึ้นไปเต้นไปดิ้น ด้วยจังหวะที่หนักแน่นของเสียงทุ้มดังๆ เครื่องดนตรีที่ใช้มักจะเป็น Sound Effect เสียส่วนใหญ่
4.HIP-HOP - Hip-Hop เองก็เน้นด้วยการทำให้คนรู้สึกอยากลุกขึ้นมาเต้นเหมือนกัน แต่จะไม่เท่า Techno เพราะ Hip-Hop ฟังแล้วเข้าถึงอารมณ์จริงๆ ก็จะแค่ขยับแขนขาตามจังหวะนิดหน่อยเท่านั้น Hip-Hop มักจะใช้ Sound Effect เป็นเครื่องดนตรี แต่สิ่งที่ Hip-Hop เน้นจริงๆคือ น้ำเสียงและการร้องของตัวนักร้องเอง ที่จะร้องเป็นจังหวะ และใช้คำที่สัมผัสกันเป็นเนื้อ
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง TECHNO กับ HIP-HOP คือ Techno จะค่อนข้างหนักกว่า Hip-Hop และไปเน้น คนร้องเท่า Hip-Hop
     5.SOUL / R&B - Soul / R&B (Rythm & Blues) คือแนวเพลงที่เน้นที่เนื้อร้องแนว ความรักซึ้งๆ กับการเล่นกับจังหวะที่พอดีกัน ดนตรีจะค่อนข้างไปทางสดใสหน่อย แต่ยังไม่สดใสเท่ากับ Pop ส่วนด้านเครื่องดนตรีก็จะไม่ค่อยจำกัดแนว แต่มักจะใช้ Sound Effect ประกอบนิดหน่อย
     6.Ballad - เป็นอีกแนวที่เล่นที่น้ำเสียงของคนร้องกับเนื้อที่จะออกแนวรักซึ้งๆ ซึ่ง่ค่อนข้างจะซึ้งกว่า Soul/R&B ดนตรี จะใช้จังหวะที่ช้ามาก ค่อยๆเป้นค่อยๆไป (อาจจะมีเร็วบ้าง แต่ไม่เร็วมาก ซึ่ง Ballad แบบเร็วนั้นจะค่อนข้างหายากนิดนึง) อิมเมจของ Ballad คือ ผู้หญิงวัยแรกเริ่มมีความรัก เครื่องดนตรี ก็ไม่จำกัดแนวเช่นกัน และมี Sound Effect ประกอบบ้าง
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง Soul/R&B กับ Ballad คือ S/R&B จะเร็วกว่าและมีอิมเมจที่เน้นด้านความรัก ส่วน Ballad จะช้ากว่ามาก อิมเมจก็จะเป้นเด็กผู้หญิงที่มีความรักครั้งแรก
     7.ROCK - แนวนี้เป็นแนวที่แพร่หลายออกไปค่อนข้างมาก และยังมีการแตกแขนงออกเป็น Sub Culture ต่างๆ มากกว่าแนวเพลงอื่นๆ Rock จะเป็นแนวเพลงที่ฟังแล้วเร้าใจ ตื่นเต้น เท่ ร้อนแรง มีลักษณะที่เหมือนจะขยับไปขยับมาตลอดเวลา Rock ไม่จำเป็นจะต้องใช้จังหวะที่หนักหน่วงหรือเร็วๆ แต่แค่ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือเร้าใจก็เพียงพอแล้ว อย่างที่พวกฝรั่งเวลาทำอะไรที่ตื่นเต้นเค้าก็จะตะโกนว่า "It's Rock me!!!" (สังเกตได้จากสมัยก่อน พวกวง Queen หรือ Deep Purple ถึงแม้เค้าจะไม่ได้เล่นดนตรีที่หนักหน่วง หนำซ้ำ บางเพลงออกจะช้าด้วยซ้ำ แต่ทั้งพวกเค้าและผุ้ฟังก็บอกว่ามัน Rock)
     8.FUNK - เป็นแนวเพลงอีกแนวนึง ที่ฟังแล้วรู้สึกเร้าใจ ตื่นเต้น แต่จุดที่ต่างจาก Rock อย่างเห็นได้ชัดคือ Funk จะออกแนวตื่นเต้นเร้าใจแบบ นิ่งๆ สุขุม ถ้าเป็นอิมเมจ ก็คงเป็นคนไส่ชุดดำ เท่ๆ นิ่งๆ เครื่องดนตรีของเพลงแนวนี้ ก็จะเน้นเครื่องดนตรีแนวหนักๆทั้งหลาย เช่น กีต้าร์ไฟฟ้า เบสไฟฟ้า กลองชุดใหญ่ๆ
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง FUNK กับ ROCK ก็คงอยู่ที่อิมเมจ FUNK จะออกเท่ เร้าใจแบบนิ่งๆ ส่วน ROCK ก็จะเท่า เร้าใจแบบ เคลื่อนไหวตลอดเวลา
.
.
.
ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับแนวเพลงหลักๆทั้งหลาย ซึ่งคราวหน้าผมจะมาขึ้นเกี่ยวกับ Sub Culture ละกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น